แนวข้อสอบพรบ.คุ้มครองเด็ก เตรียมสอบครูผู้ช่วยสอศ. คราวที่แล้วออกหลายข้อ

แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

1. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ตราขึ้นโดย

ก. คำแนะนำของสภาผู้แทนราษฎร

ข. คำแนะนำของวุฒิสภา

ค. คำแนะนำของสภาผู้แทนราษฎรและยินยอมของวุฒิสภา

ง. คำแนะนำของสภาผู้แทนราษฎรและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

จ. คำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา

2. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ตราขึ้นเป็นปีที่เท่าใด ในรัชกาลปัจจุบัน

ก. ปีที่ 57

ข. ปีที่ 58

ค. ปีที่ 59

ง. ปีที่ 86

จ. ปีที่ 87

3. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจของกฎหมายใดa

ก. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

ข. พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม

ค. รัฐธรรมนูญ

ง. พระราชกำหนด

จ. ถูกทุกข้อ

4. พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ยกเลิกกฎหมายใด

ก. ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 231 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515

ข. ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 249 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515

ค. ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน 2515

ง. ข้อ ก. และข้อ ข. ถูก

จ. ข้อ ข. และข้อ ค. ถูก

5. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด เด็ก หมายความว่า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบห้าปีบริบูรณ์

ข. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบห้าปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส

ค. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์

ง. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส

จ. ไม่มีข้อใดกล่าวถูกต้อง

6. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. นักศึกษา หมายความว่า เด็กซึ่งกำลังรับการศึกษา ระดับอุดมศึกษา/เทียบเท่าอยู่ในสถานศึกษาของรัฐ/เอกชน

ข. นักเรียน หมายความว่า เด็กซึ่งกำลังรับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา

ค. เด็กพิการ หมายความว่า เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย สมอง สติปัญญา หรือจิตใจ ไม่ว่าความ

บกพร่องนั้น จะมีมาแต่กำเนิดหรือเกิดภายหลัง

ง. เด็กกำพร้า หมายความว่า เด็กที่บิดาหรือมารดาเสียชีวิต เด็กที่ไม่ปรากฏบิดามารดา หรือไม่สามารถสืบหาบิดามารดาได้

จ. บิดามารดา หมายความว่า บิดามารดาของเด็กที่สมรสกันเท่านั้น

7. ผู้ปกครอง หมายความว่า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. บิดา มารดา ผู้อนุบาล

ข. ผู้รับบุตรบุญธรรม

ค. ผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ง. พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง ผู้ปกครองสวัสดิภาพ นายจ้าง ตลอดจนบุคคลอื่นซึ่งรับเด็กไว้ในความอุปการะเลี้ยงดูหรือซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วย

จ. ถูกทุกข้อ

8. “การเลี้ยงดูโดยมิชอบ” หมายความว่า การไม่ให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนหรือพัฒนาเด็กตามมาตรฐานขั้นต่ำที่กำหนดในกฎหมายใด จนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก

ก. พระราชบัญญัติ

ข. พระราชกำหนด

ค. พระราชกฤษฎีกา

ง. กฎกระทรวง

จ. มติคณะรัฐมนตรี

9. “สถานรับเลี้ยงเด็ก” หมายความว่า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

ก. สถานพยาบาลหรือโรงเรียนทั้งของรัฐและเอกชน

ข. จำนวนตั้งแต่หกคนขึ้นไป

ค. ซึ่งเด็กไม่เกี่ยวข้องเป็นญาติกับเจ้าของหรือผู้ดำเนินการสถานรับเลี้ยงเด็กดังกล่าว

ง. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์

จ. ไม่มีข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

10. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. “สถานพัฒนาและฟื้นฟู” ความหมายว่า สถานที่ โรงเรียน สถาบัน หรือศูนย์ที่จัดขึ้น เพื่อให้การ

บำบัดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

ข. “สถานพินิจ” หมายความว่า สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนของแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัด

ค. “สถานสงเคราะห์” หมายความว่า สถานที่ให้การอุปการะเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กที่จำต้องได้รับการ

สงเคราะห์ ซึ่งมีจำนวนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป

ง. “สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ” หมายความว่า สถานที่ให้การศึกษา อบรม ฝึกอาชีพ เพื่อแก้ไขความประพฤติ บำบัด รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจแก่เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ

จ. “สถานแรกรับ” หมายความว่า สถานที่รับเด็กไว้อุปการะเป็นการชั่วคราวเพื่อสืบเสาะและพินิจเด็กและครอบครัว เพื่อกำหนดแนวทางในการสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสมแก่เด็กแต่ละราย

11. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. “กองทุน” หมายความว่า กองทุนคุ้มครองเด็กและเยาวชน

ข. “คณะกรรมการ” หมายความว่า “คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

ค. “ปลัดกระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวง

ง. “ผู้ว่าราชการจังหวัด” หมายความรวมถึง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด

จ. “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

12. หากจังหวัดนั้น มิได้เปิดการศาลเยาวชนและครอบครัวหรือแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวขึ้นในศาลจังหวัด ให้ศาลใดมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามพระราชบัญญัตินี้

ก. ศาลยุติธรรม

ข. ศาลแพ่ง

ค. ศาลอาญา

ง. ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดใกล้เคียง

จ. ศาลจังหวัด

13. รัฐมนตรีกระทรวงใด ไม่เป็นเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

จ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

14. ให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงหรือระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวงนั้น กฎกระทรวงหรือระเบียบนั้น ให้ใช้บังคับได้เมื่อใด

ก. รัฐมนตรีลงนาม

ข. แจ้งเวียนทุกส่วนราชการแล้ว

ค. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

ง. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

จ. เมื่อพ้นเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

15. ตำแหน่งใด เป็นประธานกรรมการของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

ก. นายกรัฐมนตรี

ข. รองนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับมอบหมาย

ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

จ. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

16. ตำแหน่งใด เป็นรองประธานกรรมการของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ข. ปลัดกระทรวงยุติธรรม

ค. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

จ. รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

17. ตำแหน่งใด ไม่เป็นกรรมการของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

ก. ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ

ข. อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง อธิบดีกรมสุขภาพจิต

ค. อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ง. อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

            จ. อัยการสูงสุด ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงมหาดไทย

18. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่งตั้งจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานที่ทำในวิชาชีพสังคม สงเคราะห์ ครู จิตวิทยา กฎหมาย แพทย์ ไม่น้อยกว่ากี่ปี

ก.  2 ปี

ข.  4 ปี

ค.  5 ปี

ง.  7 ปี

จ.  9 ปี

19. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แต่งตั้งจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานที่ทำในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ครู จิตวิทยา กฎหมาย แพทย์ วิชาชีพละกี่คน

ก.  1 คน

ข.  2 คน

ค.  3 คน

ง.  4 คน

จ.  5 คน

20. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติมีทั้งหมดกี่คน

ก.  23 คน

ข.  25 คน

ค.  27 คน

ง.  30 คน

จ.  33 คน

21. ตำแหน่งใด เป็นเลขานุการของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ข. ปลัดกระทรวงยุติธรรม

ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

ง. รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

จ. รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมาย

22. ให้หน่วยงานใด ทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองแห่งชาติ

ก. สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

ข. สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม

ค. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

ง. สำนักงานปลัดกระทวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

จ. สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกา คนพิการและผู้สูงอายุ

23. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ต้องเป็นสตรีไม่น้อยกว่าเท่าใด

ก. กึ่งหนึ่ง

ข. สองในสาม

ค. หนึ่งในสาม

ง. สามในห้า

จ. เกินกึ่งหนึ่ง

24. หน่วยงานที่ทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการคุ้มครองแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ดังนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง

ก. ประสานงานและร่วมมือกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานเกี่ยวกับการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก

ข. พัฒนาระบบ รูปแบบ และวิธีการ ตลอดจนไดบริการด้านสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก

ค. รวบรวมผลการวิเคราะห์ วิจัย ดำเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตาม นโยบาย รวมทั้งแผนงาน

ในการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็กของหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่

เกี่ยวข้อง แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบ

ง. ปฏิบัติงานธุรการทั่วไปของคณะกรรมการ

จ. ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการหรือมติคณะรัฐมนตรี

25. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี

ก. 1 ปี

ข. 2 ปี

ค. 3 ปี

ง.  4 ปี

จ.  5 ปี

26. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติซึ่งพ้นจากตำแหน่งเพราะครบวาระข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด

ก. อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้

ข. ไม่อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้

ค. อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้

ง. อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ แต่ต้องไม่เกินสองวาระติดต่อกัน

จ. อาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ ไม่จำกัดวาระ

27. ใครเป็นผู้รับสนองผู้พระบรมราชโองการ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. นายชวน หลีกภัย

ข. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ค. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

ง. พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร

จ. นายบรรหาร ศิลปะอาชา

28. ผู้ที่บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ต้องระวางโทษตามข้อใด

ก. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมืนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จ. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

29. ผู้ที่โฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหาแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็ก หรือเพื่อแสวงหากประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษตามข้อใด

ก. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข. จำคุกไม่เกินสี่เดือน หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค. จำคุกไม่เกินห้าเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จ. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

30. ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบเกี่ยวกับความประพฤติของนักเรียนหรือนักศึกษา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในเคหสถาน สถานที่หรือยานพาหนะใดๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ตก หรือในระหว่างเวลาทำการเพื่อทำการตรวจสอบการฝ่าฝืนได้ ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ทำปฏิบัติหน้าที่ ต้องระวางโทษตามข้อใด

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ง. จำคุกไม่เกินห้าเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จ. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

31.  พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มีผลบังคับใช้เมื่อไหร่

ก. มีผลใช้บังคับวันถัดไปจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. มีผลใช้บังคับพ้น 60 วันจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. มีผลใช้บังคับพ้น 90 วันจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. มีผลใช้บังคับพ้น 180 วันจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

32. เด็ก หมายความว่าอย่างไร

ก. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
ข. บุคคลที่มีอายุย่างปีที่เจ็ดถึงปีที่สิบหก
ค. ไม่เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
ง. ข้อ ก และ ค

33. เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดหมายความว่าอย่างไร

ก. เด็กที่ต้องรับภาระหน้าที่ในครอบครัวเกินวัย
ข. เด็กที่ไม่มีบิดามารดาหรือผู้ปกครองหรือมีแต่ไม่เลี้ยงดู
ค. เด็กที่ประพฤติตนไม่สมควร 
ง. ถูกทุกข้อ

34. ข้อใดคือสถานรับเลี้ยงเด็กที่ถูกต้องที่สุด

ก. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินห้าปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
ข. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินห้าปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่หกคนขึ้นไป
ค. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
ง. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่หกคนขึ้นไป 

35. ข้อใดไม่ใช่ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

36. ใครเป็นประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ

ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

37. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติต้องเป็นสตรีจำนวนเท่าใด

ก. ไม่น้อยกว่าหนึ่งคน
ข. ไม่น้อยกว่าสามคน
ค. ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม 
ง. ไม่น้อยกว่าสองในสาม

38. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี

ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี

39. ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา เป็นคณะกรรมการ คณะใด

ก. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
ข. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด 
ค. คณะกรรมการคุ้มครองเด็กเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ข้อ ข และ ค

40. การบังคับ ขู่เข็ญ หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร มีโทษตามข้อใด

ก. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

41. หากครูพบเห็นว่าเด็กถูกทารุณกรรมหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการเลี้ยงดูโดยมิชอบแต่ไม่รายงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ทราบ มีโทษตามข้อใด

ก. จำคุกไม่เกินห้าเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

42. ผู้ที่ขัดขวางพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในเคหสถาน กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำทารุณกรรมเด็ก มีโทษตามข้อใด

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

43. ข้อใดไม่ใช่เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์

ก. เด็กชายบีไปตามหาเพื่อนไม่มีค่ารถกลับบ้าน 
ข. เด็กชายเอกมีผู้ปกครองถูกจำคุก
ค. เด็กชายน้อยต้องดูแลยายที่พิการตามลำพัง
ง. เด็กชายบอยไปเที่ยวงานวัดกับผู้ปกครองแล้วพลัดหลง

44. เด็กชายไก่อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์มีร่างกายพิการขาลีบ จะได้รับการสงเคราะห์อีกกี่ปี

ก. ไม่ได้รับการสงเคราะห์ต่อ
ข. ได้รับการสงเคราะห์อีกไม่เกิน 2 ปี
ค. ได้รับการสงเคราะห์อีกไม่เกิน 4 ปี
ง. กี่ปีก็ได้ แต่ไม่เกินอายุครบ 24 ปีบริบูรณ์

45. เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพมีกี่ประเภท

ก. 3 ประเภท
ข. 4 ประเภท
ค. 5 ประเภท
ง. 6 ประเภท

46. ข้อใดไม่ใช่เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ

ก. เด็กที่ถูกทารุณกรรม
ข. เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
ค. เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ง. เป็นเด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพทุกข้อ

47. การส่งเด็กไปสถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้นฟู ระหว่างการสืบเสาะและพินิจเพื่อหาวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสม ให้กระทำได้ไม่เกินกี่วัน

ก. ไม่เกิน 3 วัน ขยายได้อีกไม่เกิน 7 วัน
ข. ไม่เกิน 3 วัน ขยายได้อีกไม่เกิน 15 วัน
ค. ไม่เกิน 7 วัน ขยายได้อีกไม่เกิน 15 วัน
ง. ไม่เกิน 7 วัน ขยายได้อีกไม่เกิน 30 วัน

48. ผู้ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลในการเข้าใกล้ตัวเด็กตามมาตรา43 มีโทษอย่างไร

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท 
ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ค. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ง. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท

49. ผู้ที่จัดตั้งหรือดำเนินกิจการสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยมิได้รับใบอนุญาต มีโทษอย่างไร

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ค. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ง. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท

50. การยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและระเบียบที่กำหนดในกฎกระทรวง มีโทษอย่างไร

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ค. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ง. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท

51. ใครเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็ก

ก. ปลัดกระทรวงยุติธรรม
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ง. ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

52. โรงเรียนต้องจัดให้มีระบบงานใดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

ก. ระบบงานคุ้มครองเด็ก
ข. ระบบงานดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ค. ระบบงานแนะแนว
ง. ถูกทุกข้อ

53. พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา มีหน้าที่ตามข้อใด

ก. สอบถามครู หรือหัวหน้าสถานศึกษา เกี่ยวกับความประพฤติ ของนักเรียน
ข. เรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือน ว่าจะปกครองดูแลมิให้นักเรียนฝ่าฝืนระเบียบ
ค. เรียกให้หัวหน้าสถานศึกษาที่นักเรียนกำลังศึกษาอยู่มารับตัวนักเรียน
ง. ถูกทุกข้อ

54. ผู้ที่ไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่มีโทษตามข้อใด

ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ข. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ค. จำคุกไม่เกินสองเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ง. จำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท

55. ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กกระทำการเปิดเผยข้อมูลเด็กทำให้เกิดความเสียหายมีโทษอย่างไร

ก. จำคุกไม่เกินห้าเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เฉลยแนวข้อสอบ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546

             1.จ    2.ข        3.ค       4.ค       5.ง       6.จ       7.จ       8.ง       9.ก       10.ค

11. ก    12.จ     13.จ     14.ค     15.ง     16.ค     17.ค     18.ง     19.ข     20.ข

21.จ     22.ง     23.ค     24.จ     25.ค     26.ง     27.ง     28.ง     29.จ     30.ก

31.ง     32.ง     33.ค     34.ง     35.ค     36.ก     37.ค    38.ข     40.ข     41.ข

            42.ข    43.ก     44.ง     45.ก     46.ง     47.ง      48.ก    49.ก     50.ง      51.ง

            52.ค    53.ง     54.ก     55.ข 
            https://www.facebook.com/profile.php?id=100004381868464