ตีความกรณีเรือ่งวินัยและการรักษาวินัย ม. 87 ( 2 ) วินัยร้ายแรง เตรียมสอบครูผู้ช่วย สอศ.
มาตรา 87 วรรคสอง ได้บัญญัติเกี่ยวกับความผิดวินัยอย่างร้ายแรงในกรณี
ละทิ้งหน้าที่หรือทอดทิ้งราชการไว้ 2 กรณี ดังนี้
1. กรณีละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ
ทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง
2. ละทิ้งหน้าที่ราชการไปเป็นเวลานาน
องค์ประกอบความผิด ตามมาตรา
87 วรรคสอง
กรณีที่ 1
1. มีหน้าที่ราชการ
2. ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
3. เป็นเหตุให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง
กรณีที่ 2
1. มีหน้าที่ราชการ
2. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า
15 วัน
3. โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือโดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติ
ตามระเบียบของทางราชการ
คำว่า “หน้าที่ราชการ” มีความหมายเช่นเดียวกับมาตรา 84
ตามกรณีที่ 1 กรณีที่เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงนั้น ต้องเป็นการละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
จึงจะเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าได้ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ
ไปนานเพียงใดหรือไม่ และความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นผลโดยตรงจากเหตุที่ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการนั้น
เช่น ละทิ้งหน้าที่เวรยามรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการไปเพียงครึ่งชั่วโมง เป็นเหตุให้มีผู้ลอบวางเพลิงเผาอาคารสถานที่ราชการได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
ถือได้ว่าอยู่ในความหมายของความผิดกรณีนี้แล้ว ~ 54 ~
อย่างไรจึงจะมีเหตุผลอันสมควร ถ้ามีเจตนาละทิ้งไปทำธุระในเรื่องส่วนตัว
ถือว่า เป็นกรณีไม่มีเหตุผลอันสมควร แต่ถ้าเป็นกรณีที่เจ็บป่วยมากในทันทีทันใดต้องละทิ้งหน้าที่
ไปหาแพทย์ทันที ถือว่ายังมีเหตุผลอันสมควรยังไม่ถึงกับเป็นความผิดร้ายแรง กรณีใดจะถือว่า
มีเหตุผลอันสมควรหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป
ตามกรณีที่ 2 กรณีละทิ้งหน้าที่ราชการไปเป็นเวลานาน
เป็นกรณีที่มีเจตนาละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า
15 วัน โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือ โดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ
การนับวันสำหรับการกระทำผิดวินัยกรณีละทิ้งหน้าที่ราชการนั้น
จะต้องนับวันละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันทุกวัน โดยนับรวมวันหยุดราชการซึ่งอยู่ระหว่างวันละทิ้งหน้าที่ราชการด้วย (สำนักงาน ก.พ. ที่ นร 0709.2/28 ลงวันที่
8 กุมภาพันธ์ 2545)
กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันมาแล้ว 15 วัน วันที่ 16 มาลงชื่อปฏิบัติงานแล้วออกไปนอกสถานศึกษาโดยไม่ขออนุญาตและไม่ได้กลับมาปฏิบัติงานในวันนั้น
ผู้บังคับบัญชาได้ทำบันทึกรายงานไว้เป็นหลักฐาน ก.ค.ศ. เคยวินิจฉัยว่า เป็นกรณีละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันเกินกว่า
15 วัน 23
กรณีข้าราชการถูกจับกุมคุมขังไม่เป็นเจตนาละทิ้งหน้าที่ราชการ
ไม่ต้องยื่นใบลา แต่จะต้องรายงานหรือแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเมื่อได้รับการประกันตัวต้องรีบกลับไปปฏิบัติงานทันที
กรณีข้าราชการหายไปเฉย
ๆ โดยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าหายไปเพราะเหตุใด ต้องถือว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
หากภายหลังปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้นั้น ถูกลักพาตัว หรือประสบเหตุที่ทำให้ถึงแก่ความตาย
ผู้บังคับบัญชาย่อมเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ตรงกับข้อเท็จจริงได้
23 มติ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ซึ่งทำการแทน ก.ค.ศ.)
ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2551 เมื่อวันที่
21 เมษายน 2551 ~ 55
~
การที่จะพิจารณาว่าข้าราชการที่ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลา
เกินกว่า 15 วัน
จะมีเหตุผลอันสมควรหรือไม่นั้น ผู้บังคับบัญชาต้องสืบสวนดูให้เป็นที่แน่ชัดเสียก่อน
กรณีดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง ตามกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยกรณีความผิดที่ปรากฏชัดแจ้ง พ.ศ. 2549 ข้อ 2 (2) ซึ่งกำหนดให้ผู้บังคับบัญชาต้องสืบสวนก่อน
และสามารถลงโทษได้โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นทำการสอบสวนพิจารณา ทั้งนี้ โดยใช้สำนวนการสืบสวนเสนอให้องค์คณะผู้มีอำนาจพิจารณา
ได้แก่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา กรณีเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา
เว้นแต่ บางตำแหน่งและบางวิทยฐานะที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจของ ก.ค.ศ. กรณีผู้ไม่สังกัด เขตพื้นที่การศึกษาเป็นอำนาจของ
อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง เมื่อผู้มีอำนาจพิจารณามีมติแล้ว ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งลงโทษไปตามมตินั้น
การพิจารณาความผิดฐานละทิ้งหน้าที่ราชการจะเป็นความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่
จะต้องดูพฤติการณ์ประกอบกับเจตนาของผู้กระทำผิดเป็นเรื่อง ๆ ไป เช่น ขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาป่วยหนักไม่มาปฏิบัติราชการเกินกว่า 15 วัน โดยไม่ยื่นใบลาหรือแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ทั้ง ๆ ที่ในระหว่างเจ็บป่วยอยู่นั้นสามารถแจ้งและลงชื่อในใบลาได้ แต่เมื่อหายป่วยแล้วก็มาทำงานและยื่นใบลาป่วย
กรณีนี้การหยุดราชการไปนั้นก็มีเหตุผลอันสมควร และตามพฤติการณ์ก็ยังไม่แสดงถึงเจตนาหรือจงใจที่จะไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ
จึงไม่เป็นความผิดร้ายแรงตามวรรคสองนี้ แต่อาจเป็นความผิดกรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบการลา
หรือแบบธรรมเนียมของทางราชการ ตามมาตรา 85 ซึ่งมิใช่ความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ในทางกลับกัน หากเจ็บป่วยเล็กน้อยแต่หยุดราชการไปนานเกินสมควรทั้งที่สามารถมาปฏิบัติราชการได้และไม่มีใบรับรองแพทย์
เช่น นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุรถล้ม ไปรักษาที่สถานีอนามัยมีแผลถลอกที่เข่าและเท้าเท่านั้น
แต่หยุดราชการไปเป็นเวลานานโดยไม่ลาและ ไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เป็นความผิดวินัยร้ายแรง
โทษไล่ออก (56)
การติวสรุปสอบบรรจุครูผู้ช่วย สอศ. ( รับจำกัด เพียง 30 ท่านเท่านั้น )
ค่าใช้จ่ายในการติว 1,500 บาท สำรองที่นั่งละ 500 บาท (ส่วนที่เหลือจ่ายหน้างาน) สถานที่ติวจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วัน ถ้าจังหวัดใดมีคนติวครบ 30 คน สถาบันยินดีเดินทางไปติวจังหวัดนั้นได้เลย ฟรี! 1.เอกสาร 2.แผ่น CD รวมสรุปเนื้อหา+แนวข้อสอบ 3.อาหารกลางวัน 4. อาหารว่าง ( 2 วัน) วิทยากร สถาบันกวดวิชาและภาษาไดเอ็ด ดร.ภักดี รัตนมุขย์ อดีตรองผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม และที่ปรึกษา ดร. ศตวรรษ สุขมากินโรจน์ ดร.มณฑิรา พิทักษ์วงศ์ศร และ ดร.ประดิษฐ์ ศรีอ้วน เนื้อหาในการติว
ภาค ก ความรอบรู้และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวความประพฤติและการปฎิบัติของวิชาชีพครู 1. ความรอบรู้
1.1 สังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเหตุการณ์ปัจจุบัน
1.2 นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา
1.3 วัฒนธรรมไทยและขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
1.4 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติราชการ
1.4.1 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545
1.4.2 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.4.3 พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.4.4 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.4.5 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
1.4.6 พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551
1.4.7 กฎหมายอาชีวศึกษา กฎกระทรวง ระเบียบข้อบังคับ ของสอศ. ที่เกี่ยวข้องเช่น
-พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551
-กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2551,กรอบมาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาระดับ ปวช.และปวส.พ.ศ. 2556
-กรอบมาตรฐานหลักสูตร หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร ระดับ ปวช.พ.ศ. 2556 และปวส. พ.ศ. 2557
- ระเบียบการประเมินผล ปวช. 2545 พ.ศ.2547 และปวส 2546 พ.ศ. 2547
-มาตรฐานการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2555
-กฎกระทรวง และระเบียบ การแบ่งส่วนราชการ การบริหารของสอศ. ,สถาบัน และสถานศึกษา
2. ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความประพฤติและการปฎิบัติของวิชาชีพครู
2.1 วินัยและการรักษาวินัย
2.2 คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม
2.3 มาตรฐานวิชาชีพ
2.4 จรรยาบรรณวิชาชีพ
2.5 สมรรถนะวิชาชีพ
ภาค ข ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง
3. ความรู้ความสามารถกเกี่ยวกับวิชาการศึกษา ความรู้ในวิชาชีพครู
3.1 หลักสูตรและการพัฒนาหลักสูตร
3.2 หลักการสอนและการจัดการเรียนรู้
3.3 จิตวิทยาและการแนว
3.4 การพัฒนาผู้เรียน
3.5 การบริหารจัดการชั้นเรียน
3.6 การวิจัยการศึกษา
3.7 สื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา
3.8 การวัดและประเมินผลการศึกษา
จำหน่ายไฟล์เอกสารแนวข้อสอบ ครูผู้ช่วย สอศ. ภาค ก และภาค ข ฉบับสมบูรณ์ ราคา 399 บาท
รายละเอียด สรุป+แนวข้อสอบคลอบคลุมหลักสูตรการแข่งขันสอบบรรจุเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เอกสาร เนื้อหา+แนวข้อสอบ จะเป็น zipไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ในการเปิดไฟล์ เพราะมีเนื้อหาจำนวนมาก สามารถนำไปปริ้นอ่านได้เลย ส่งเป็นไฟล์ทางอีเมล์
สั่งซื้อ สรุปเนื้อหา+แนวข้อสอบ แจ้งที่ อีเมล์ Dr.Pukdee-@hotmail.com , facebook.com/dr.pukdee
ชำระเงินผ่านบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเภทออมทรัพย์ สาขามหาสารคาม
เลขที่บัญชี 608-269894-8 ชื่อบัญชี นางสาวทักษพร รัตนมุขย์ ชำระเงินแล้วโทร. แจ้ง 084-2616667,043-721822 หรือแจ้งทางอีเมล์อีกครั้งว่าโอนเงินแล้ว ระบุวันที่ เวลา ยอดเงินที่โอน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก